เรื่องพลังของคืนจันทร์ดับ มีอยู่ในทุกศาสตร์ที่ว่าด้วย พลัง ดวงดาว จักรวาล จิตวิญญาน ไสยศาสตร์ ดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ กายวิภาค ไปจนถึงวิถีเกษตรกรรม อำนาจแห่งจันทร์มากน้อยแค่ไหน? ให้ดูจากน้ำ อำนาจจันทร์ดึงดูดน้ำให้ขึ้นสูงสุดได้ ผลักดันน้ำให้ลงลึกสุดได้ ในคืนจันทร์ดับ.. ถ้าเราออกไปเดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน จะเกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้า จากฟ้า – ตัวเรา – พื้นดิน หากเรานั่งสมาธิบนพื้นดิน กาย/จิต ของเราจะเป็นสื่อกลาง ถ่ายเทพลังงานของฟ้ากับดินในระดับลึกถึงแกนใจกลางโลก เราจะเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล เกิดการรวมพลังงานในระดับอนันต์ ( พิธีกรรมไสยศาสตร์โบราณจะปูเสื่อจากเยื่อใยธรรมชาติและนั่งบนพื้นดิน ) ทุกคืนจันทร์ดับและคืนจันทร์เพ็ญ น้ำทั้งหมดในกาย จะมีปฎิกริยาอย่างยิ่งต่อสมอง และมวลน้ำทั้งหมดในกาย กับน้ำทั้งหมดในโลกธาตุ ที่ล้วนมีตัวรู้ มีการจดจำ อนุภาคทั้งหมดจะสั่นสะเทือนเคลื่อนเข้าหาอนุภาคที่สั่นสะเทือนในระดับคลื่นเดียวกัน

ไสยศาสตร์ ถือว่าคืนจันทร์ดับเป็นคืนอาถรรพ์ วันแรง คลื่นพลังงานทุกระดับล้วนมีอำนาจเต็มกำลัง มีพลังแรงมาก พลังงานจากทุกภพภูมิ ทั้งจากเบื้องล่าง เบื้องบน ต่างดึงดูดเข้าหากัน หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน หากเกิดการรวมจิตเพียงเสี้ยววินาที จะเกิดการรวมพลังอำนาจจากทุกภพ ทุกภูมิ ทุกมิติ ทุกเวลา เข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ครูบาอาจารย์ไสยเวทย์วิชาจึงถึงเอาฤกษ์อมาวสี หรือคืนพระจันทร์ดับนี้ เป็นคืนแห่งพลังจิต คืนแห่งฤทธิ์อำนาจไสยเวทย์ จิตที่มีพลังอำนาจมากเมื่อประจุแรงจิต แรงครู แรงคาถาลงวัตถุธาตุกายสิทธิ์ เครื่องรางของขลัง เทียนบูชา ก็จะเกิดอิทธิฤทธานุภาพรุนแรงอย่างยิ่งยวด

สภาวะหยุดคิดเพียงเสี้ยววินาทีเดียวในคืนจันทร์ดับ มีพลังอำนาจแห่งจิตตานุภาพมาก พลังงานจากทุกภพภูมิจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยปราศจากช่องว่างและกาลเวลา

การเตรียมตัว เตรียมกาย เตรียมใจ บูชาเทียนในคืนจันทร์ดับ ควรทำความสะอาดร่างกาย ผิวพรรณ ระบบขับถ่าย ให้โล่ง ปรอดโปร่ง สะอาดทั้งภายนอกภายใจ เพราะกาย+จิต ของเรากำลังเป็นท่อลำเลียงเปลี่ยนถ่ายพลังงาน อยากให้จักรวาลภายนอกเป็นอย่างไร? สร้างจักรวาลภายในให้เป็นเช่นนั้น
พลังจิตผ่านกระแสจิต ต้องรักษาจิตให้โล่ง สดใส โปร่งเบา สบาย
กาย ผ่านน้ำทุกระบบในกาย น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำทั้งหมด ต่อมไร้ท่อ เซลล์ อะตอม ในกาย ควรขัดผิวคราบไคล ทำความสะอาดผิดกาย จัดการระบบขับถ่ายให้ลำไส้โล่งสะอาด ขัดผิว สระผม ตัดเล็บ ให้เซลล์เก่าๆ ที่ตายหรือหมดสภาพ หลุดลอกออกไปจากกาย เพื่อรับพลังชีวิตใหม่ เซลล์ใหม่ ดวงจิตวิญญาณใหม่ๆ ( ในกายเรามีจิตวิญญาณจำนวนมากร่วมธาตุอยู่ หากเราจิตไม่ดี กรรมไม่ดี พลังงานไม่ดี เราก็จะมีจิตวิญญาณฝ่ายต่ำมาเกาะอาศัย ครอบงำเราอยู่ทำให้เราสั่นสะเทือนพลังงานต่ำๆ ออกไป ดึงดูดเรื่องราวร้ายๆ พลังงานต่ำเสมอกันเข้ามา คนดีๆ เทวดา คลื่นจิตรูปธรรมชั้นสูงที่มีกายละเอียด คลื่นละเอียดก็ไม่สามารถเข้าใกล้เราได้ เพราะคลื่นพลังงานต่างกัน ) หากเรามีจิตที่ดี สว่าง สงบ เบิกบาน จิตของเราก็จะดึงดูดดวงจิตดีดี คลื่นจิตรูปธรรมชั้นสูงๆ ที่มีแรงจิตมีฤทธิ์อำนาจดลบันดาลมาก ดึงดูดคนดีดี เรื่องราวดีดี โชคดี เข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกับพลังงานของเรา
วาจา เรื่องดีดี กับ เรื่องชั่วๆ จะไหลผ่านเข้ามาทางวจีกรรมได้ง่ายดาย เลือกพูดแต่วิ่งดีดี หรือสวดมนต์ภาวนาเอาไว้ตลอดเวลา ปลอดภัยดี
ดวงตา รู้ไหมว่าโครงสร้างของดวงตา ก็คือจักรวาลทั้งหมดย่อส่วนอยู่ในนี้ ทั้งแกแลคซี่คือดวงตาของเรา สิ่งใดที่เราดูมันบ่อยๆ จิตจะบันทึก และจดจำ และมันจะกลายเป็นเรา การเลือกดูอะไรบ่อยๆ ความคิด บุคลิก นิสัยเราจึงเป็นไปตามนั้น สิ่งนี้พึงระวังให้มาก

จุดอมาวสี จุดปูรณมี ของทุกๆ เดือน คือจุดพลังอำนาจ มีอำนาจมาก รวมจิตให้ได้ หยุดคิดทุกสิ่งในเสี้ยววินาทีนั้น เพื่อให้พลังงานทั้งหมดในโลกธาตุเกิดการรวมพลังอำนาจในจิตของเรา และหลังจากนั้น.. ให้ภาวนา อธิษฐาน กำหนดมโนภาพที่ปรารถนาอย่างจดจ่อ สิ่งนั้นจะปรากฏ แม้ไม่ทันทีแต่จะเกิดขึ้นแน่ๆ เหมือนเราสั่งข้าวกระเพราไข่ดาวไป แล้วนั่งอ่านหนังสือรอเวลาสักครู่ เดี๋ยวก็ได้ อย่าย้ำคิด อย่าย้ำถาม ถึงไหนแล้วหล่ะ ได้หรือยัง เพราะแม่ค้าอาจหมั่นไส้แล้วย้ายคำสั่งเราไปไว้หลังสุด !!!

แบ่งเวลามาศึกษาโลกของจิตบ้าง

ชีวิตทางโลก จะอยู่อีกกี่ปีเดี๋ยวก็ตาย

แต่โลกของจิต ติดตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ

จิตนี้เป็นอมตะไม่มีวันตายหรือสลายไป แต่กายมีเกิดมีดับความเร็วนับเป็นอนันต์บรรยายไม่ได้ หากเข้าใจโลกของจิต มิติของพลังงาน ทุกลมหายใจจะไม่รู้จักทุกข์ จะทำได้ เห็นได้ เป็นได้ มีได้ สำเร็จสมปรารถนาได้ทุกเรื่อง ทุกสิ่ง ที่จิตดวงนี้คิดได้ จำได้ หมายรู้