-
พระสงฆ์ในประเทศไทยแบ่งเป็น 2 ฝ่าย เมื่อสมัยพระธรรมราชาที่ 3 ฝ่ายหนึ่งเล่าเรียนพระไตรปิฎก และสั่งพระธรรม เรียกว่าคามวาสี อีกฝ่ายหนึ่งถือวิปัสสนาธุระ คือบำเพ็ญภาวนา มักอยู่วัดอรัญญิกข้างนอกเมือง จึงเรียกว่าพระสงฆ์อรัญวาสี ( อยู่ในป่าเป็นที่พำนัก ) การอยู่ในป่าของพระเถรานุเถระนั้น ถือเป็นเครื่องกำจัดกิเลส บริโภคอาหารหนเดียว พำนัก ณ.โคนไม้เปลี่ยว จาริกไปในถ้ำ เขา ป่าดง อันเป็นธุดงควัตรของท่าน การบำเพ็ญสมณะกิจของท่าน ท่ามกลางป่าดง โขดเขา ห้วยละหารนี้เอง ทำให้ท่านได้พบกับธรรมชาติต่างๆ บ้างก็ปรากฏเป็นวัตถุแปลก ๆ เช่น รากไม้ ผลไม้ ไพล ว่าน เป็นหินที่เรียกกันว่าคดบ้าง พบเมล็ดแร่พืชพันธ์ กลับกลายเป็นเนื้อวัสดุอื่นๆ บ้าง เช่น เหล็กไหล ไข่ทองแดง เป็นต้น นี้จึงเป็นปฐมเหตุอันหนึ่ง ที่ทำให้เราได้รู้จักสิ่งของวัตถุอาถรรพ์ ในเวลาต่อมา
นับแต่โบราณกาล คนไทยเคารพสักการครูบาอาจารย์ เทียบเท่าบิดามารดา จนกล่าวติดปากกันว่า บิดามารดาครูบาอาจารย์ เมื่อถึงคราวคับขันต้องออกศึกสงคราม จึงต้องไปร่ำลาสักการะท่านผู้มีพระคุณ เพื่อขอพรสวัสดีมีชัย พระเถรานุเถระผู้มีคุณแห่งเมตตาคุณ ตามสมณะวิสัยจึงมอบของที่ระลึก เพื่อให้เป็นที่หมายทางใจคุ้มครองปกปักรักษาศิษย์ สิ่งของเหล่านั้นก็คือวัตถุธรรมชาติ ที่ท่านได้ประสบพบเห็น และเก็บมาแต่ในป่าเมื่อธุดงควัตรนั่นเอง
-
และเพื่อความมั่นใจแก่ผู้รับ ที่ต้องออกทำการสู้รบด้วยเลือดเนื้อชีวิต พระคุณเจ้าท่านจึงน้อมนำทำสมาธิบรรจุพระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ ลงวัตถุธาตุธรรมชาตินั้น แล้วอธิษฐานจิตกำหนดให้สิ่งนั้น มีคุณานุภาพทางคงกระพันชาตรี ด้วยวิถีแห่งฌาณสมาบัติ ให้คุ้มครองแคล้วคลาดปลอดภัย นำความวัฒนาถาวรกลับสู่มาตุภูมิ เครื่องรางของขลังวัตถุธรรมชาติอาถรรพ์ก็บังเกิดขึ้นด้วยเหตุนี้
ติดต่อบูชา LINE : @namotasa